CIB ร่วมกับ ธ.ไทยเครดิต ปั้นคอนเทนต์เตือนภัยเสริมเกราะป้องกันกลโกงทางไซเบอร์ ยกระดับภูมิคุ้มกันข่าวสารเพื่อ ปชช.ในวงกว้าง
CIB ร่วมกับ ธ.ไทยเครดิต ปั้นคอนเทนต์เตือนภัยเสริมเกราะป้องกันกลโกงทางไซเบอร์ ยกระดับภูมิคุ้มกันข่าวสารเพื่อ ปชช.ในวงกว้าง
นางสาวรตินันทน์ วงศ์วัชรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันภัยออนไลน์และข่าวปลอมแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ได้สร้างความเดือดร้อน ความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ธนาคารไทยเครดิตตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้านข้อมูลข่าวสารแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ธนาคารไทยเครดิตจึงได้ผนึกกำลังร่วมกับกองบัญชาการสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อสร้างเกราะป้องกันภัยไซเบอร์และส่งเสริมความตระหนักรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการฉกฉวยโอกาสของมิจฉาชีพในการหลอกลวงให้ทำธุรกรรมทางการเงิน ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการช่วยให้ประชาชนสามารถ “รู้เท่าทัน” และ “ป้องกันตนเอง” จากภัยไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในมิติของความมั่นคงของข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยทางการเงิน โดยทั้ง 2 องค์กรจะร่วมมือกันผลิตสื่อให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบคลิปวิดีโอเตือนภัยในรูปแบบละครคุณธรรม “ตำรวจ CIB & ป้าตะเพียน” ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวภัยใกล้ตัวจากประสบการณ์ผู้เสียหายจริงเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ เช่น Facebook , TikTok และ YouTube ของทั้งธนาคารไทยเครดิต และ CIB เพื่อขยายฐานการรับรู้ของประชาชนในวงกว้าง นอกจากนี้ ธนาคารไทยเครดิตได้มีการขยายการตระหนักรู้ผ่านการผลิตคลิปวิดีโอสั้น “รู้ไว้ ไม่โดนหลอก” รวบรวมวิธีรับมือกับกลโกงที่พบบ่อย เป็นอีกหนึ่งรายการที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ เพราะเรื่องนี้ใกล้ตัวกว่าที่คิด
ด้าน พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และหัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กล่าวว่า ความร่วมมือกับธนาคารไทยเครดิตในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการสร้างการเตือนภัยร่วมกับสถาบันการเงิน ผ่านการผลิตเนื้อหาคลิปวีดีโอเตือนภัย ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบทางการเงิน การฉ้อโกง หรือภัยคุกคามทางไซเบอร์อื่นๆ โดย CIB ได้เดินหน้าสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มีความมุ่งหวังอย่างยิ่งว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มช่องทางในการเตือนภัยให้กับพี่น้องประชาชนได้ครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ ทั้ง 2 องค์กร ยังมีแผนการดำเนินงานเชิงรุกลงพื้นที่จริง ผ่านการจัดกิจกรรม “คลินิกเตือนภัย เคลื่อนที่” ซึ่งจะมีการจัดอบรมให้ความรู้แก่พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ตลาด ตลอดจนประชาชนทั่วไปในย่านชุมชน โดยใช้สาขาสินเชื่อของธนาคารไทยเครดิตเป็นศูนย์กลางในการจัดอบรมให้ความรู้มีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นที่ประชาชนอาจมองข้ามหรือพฤติกรรมเสี่ยงในชีวิตประจำวันที่สื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยธนาคารไทยเครดิตมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยเครดิตและ CIB จะเป็นโอกาสสำคัญของการส่งเสริมสังคมไทยให้มีภูมิคุ้มกันด้านภัยไซเบอร์อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมสร้างความปลอดภัยให้แก่กลุ่มประชาชนฐานราก ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจเชิงสังคมของธนาคารไทยเครดิต ที่พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตเคียงข้างสังคมอย่างมั่นคงและยั่งยืน
------------------------
By: วัฒนรินทร


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น