DIT ชวนชิม – ช้อป เนื้อโคไทย ในงาน “รักแรก รสเนื้อไทย” จากเกษตรกรทั่วประเทศ

 DIT ชวนชิม – ช้อป เนื้อโคไทย ในงาน “รักแรก รสเนื้อไทย” จากเกษตรกรทั่วประเทศ ชูจุดเด่น นุ่ม อร่อย คุณภาพมาตรฐาน สู้เนื้อนำเข้าได้

     นางสาวญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน (DIT) เดินหน้าจัดโครงการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันสินค้าปศุสัตว์ ปี 2568 ตามนโยบายนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ พร้อมยกระดับการรับรู้คุณภาพ “เนื้อโคไทย” ให้เป็นที่นิยมและเชื่อมั่นของผู้บริโภคมากขึ้น กรมการค้าภายในจึงจัดกิจกรรม “รณรงค์บริโภคเนื้อโคไทย” ในคอนเซปต์ “รักแรก รสเนื้อไทย” โดยเชื่อมโยงเนื้อโคคุณภาพจากเกษตรกร 8 กลุ่ม มาจำหน่ายในบูธกิจกรรม ได้แก่ สหกรณ์โคเนื้อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KU Beef) จ.นครปฐม , เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อล้านนาเชียงราย (Lanna Beef)จ.เชียงราย , วิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงโคเนื้อลำตะคอง (NVK Beef) จ.นครราชสีมา , เครือข่ายผู้เลี้ยงโคเนื้อจังหวัดบุรีรัมย์ (Smile Beef) , สหกรณ์โคขุนดอกคำใต้ จ.พะเยา , วิสาหกิจชุมชนโคขุนสุรินทร์โกเบครบวงจร จ.สุรินทร์ , สหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด (Max Beef) จ.นครปฐม และแอนดา ฟาร์ม โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 14 สิงหาคม– 14 กันยายน 2568 ณ เซ็นทรัล พระราม 3 ชั้น 1 (14 - 27 สิงหาคม 68) , เซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 6 (15 - 24 สิงหาคม 68) , เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น G (28 สิงหาคม - 7 กันยายน 68) และหน้าตึกแดงบางซื่อ 29 สิงหาคม - 14 กันยายน 68 ช่วงวันศุกร์ - อาทิตย์ 

           ภายในกิจกรรมจะพบกับสินค้าเนื้อโคไทยที่หลากหลาย เช่น ไทยวากิว ลูกผสมแองกัส บีฟมาสเตอร์ หรือชาโรเลส์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากเนื้อโคไทย เช่น เนื้อแดดเดียว ไส้กรอกเนื้อ ไส้อั่วเนื้อ และอีกมากมาย พร้อมกิจกรรมพิเศษ ชิมเนื้อฟรี และโปรโมชั่นส่วนลด 10% ช่วง “นาทีทอง” ตลอดงาน นอกจากนี้ ในระยะต่อไปยังได้วางแผนที่จะดำเนินการจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคเนื้อโคไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคว่ารสชาติของเนื้อไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

           สำหรับสถานการณ์โคเนื้อไทย ปี 2568 คาดว่าผลผลิตอยู่ที่ 1.16 ล้านตัว ลดลง 2% จากปีก่อน คิดเป็นเนื้อโค 0.195 ล้านตัน แต่การบริโภคในประเทศและการส่งออกยังชะลอตัวจากเศรษฐกิจถดถอย และผลกระทบจากอุปทานส่วนเกินที่สะสมตั้งแต่ปี 2565 หลังเวียดนามระงับนำเข้าเพราะพบสารเร่งเนื้อแดง โดยแม้ปัจจุบันไทยส่งออกโคเนื้อได้แล้ว แต่ยังเผชิญปัญหาลักลอบนำเข้า ขณะเดียวกันการเปิดเสรีการค้า ส่งผลให้ไทยมีการนำเข้าเนื้อโคมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความนิยมบริโภคเนื้อโคนำเข้ามากกว่า จากความเข้าใจว่าภาพลักษณ์ของเนื้อไทยมีความเหนียว ไม่นุ่ม ไม่มีกลิ่นหอม รสชาติธรรมดา อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันไทยมีการพัฒนาสายพันธุ์โคและอาหารโค ทำให้ได้เนื้อโคไทยที่นุ่ม มีไขมันแทรกสูง มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย และมีมาตรฐานการจัดการฟาร์มที่ดีแล้วแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างส่งผลให้การบริโภคเนื้อโคไทยยังไม่เพิ่มขึ้นจากเดิม จึงต้องสร้างแนวทางในการตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนได้หันมาบริโภคเนื้อในประเทศให้มากขึ้น เพื่อช่วยเกษตรกรไทยของเราให้มีแรงในการแข่งขันกับตลาดการค้าของโลกในปัจจุบัน

     "กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่เนื้อโคไทย ว่ามีคุณภาพหลากหลาย มีมาตรฐานรองรับ และผลิตโดยเกษตรกรไทยที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนการเลี้ยงจนถึงกระบวนการแปรรูป ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า ตลอดจนเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร กรมการค้าภายในจึงขอเชิญชวนผู้บริโภคทุกท่านมาสัมผัสรสชาติ “รักแรก” ของเนื้อโคไทย พบกันได้ที่บูธกิจกรรมของเรา นอกจากนี้ ฝากถึงผู้บริโภค ลองเปิดใจชิมเนื้อโคไทย แล้วจะรู้ว่าเนื้อไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวทิ้งท้าย

                            -------------------------

By: วัฒนรินทร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กรมวิชาการเกษตรเดินหน้าอบรมผู้ควบคุมการใช้โดรนพ่นสาร ตั้งเป้า 5,000 ราย ทั่วประเทศภายในปี 70

ธ.ก.ส. เปิดตัวสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก หน่วยละ 100 บาท ลุ้นโชคใหญ่ 10 ล้าน พร้อมลุ้นรางวัลพิเศษรวมกว่า 16 ล้านบาท

ม.เกริกมอบโล่เกียรติคุณเชิดชูเกียรติ “นักการเมืองดีเด่นยอดเยี่ยม ประจำปี 2567”