ม.เกริก จัดพิธีรำลึก 47 ปี ดร.เกริก ประจำปี 68 พร้อมมอบรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น
ม.เกริก จัดพิธีรำลึก 47 ปี ดร.เกริก ประจำปี 68 พร้อมมอบรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า วันนี้เราต่างได้มาร่วมน้อมนำจิตตั้งมั่นเพื่อแสดงออกถึงความเคารพ และน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีอันสูงส่งที่มีอย่างคุณูปการ ของ ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 73 ปี มหาวิทยาลัยเกริก ได้ผ่านช่วงเวลาที่มีคุณค่า และทำหน้าที่รับใช้สังคมมาอย่างยาวนานด้วยรากฐานที่ ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ได้เป็นผู้ก่ออิฐก้อนแรกของการศึกษาให้แก่เยาวชนในวันนั้นจนถึงวันนี้ต่างเติบโตออกไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลครอบครัว สังคม และประเทศชาติอย่างมีคุณค่า คุณธรรม และสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยเกริกดังเป็นที่ปรากฎในสังคม ด้วยสำนึกในคุณความดี และคุณูปการอันมีคุณค่าต่อการศึกษาของประเทศชาติที่ ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ได้วางรากฐานที่แข็งแรงและมั่นคง พวกเราทั้งหลาย ทั้งผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรทุกคนจะขอสืบสานปณิธานอันสูงส่งของ ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนาการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกริกให้มีความเจริญก้าวหน้าสืบไป
ดร.ดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และผู้ดำเนินรายการแต้มต่อ ทาง สถานีโทรทัศน์ ททบ. 5 ศิษย์เก่าดีเด่นสาขาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสื่อสารการเมือง วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า แน่นอนว่ามันคือความภูมิใจแต่ที่มากกว่าความภูมิใจนั่นคือการที่เราทำงานแล้วมีคนเห็นว่างานที่เราทำนั้นมีคุณค่าต่อสังคมสามารถที่จะเป็นแบบอย่างให้หลายๆคนได้เห็นและนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ และสิ่งที่ยากกว่านั้นก็คือ การรักษามาตรฐานของการทำงานในวิชาชีพ ตลอดจนการเพิ่มพูนองค์ความรู้อยู่ตลอดเวลา และเพื่อให้เกิดประโยชน์มากสุดกับสังคม สิ่งที่มากไปกว่าองค์ความรู้ที่ได้มานั่นคือนำไปใช้ในการทำงานบนพื้นฐานของความรับผิดชอบและยึดมั่นในหลักจรรยา การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องอันจะเป็นผลสะท้อนว่าเราสามารถปรับใช้ทฤษฎีและความรู้ที่ได้ศึกษามาไปนำเสนอถ่ายทอดต่อให้สังคมให้รับรู้และเข้าใจถูกต้องได้มากน้อยเพียงใด เรียนเพื่อรู้อย่างเดียวไม่พอแต่ต้องนำไปสร้างสรรค์สังคมให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและเป็นฟันเฟืองที่ช่วยนำพาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วย
ดร.อภิวัฒน์ จ่าตา ผู้สื่อข่าวอาวุโสและนักสื่อสารองค์กร ศิษย์เก่าดีเด่นสาขาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสื่อสารการเมือง วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า เป็นลูกหม้อของมหาวิทยาลัยเกริกคนหนึ่งเพราะผมเริ่มศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ปริญญาโทสาขารัฐศาสตร์ และ ปริญญาเอกสาขาสื่อสารการเมือง ที่นี่คำว่า "ความรู้ทำให้องอาจ" ซึ่งเป็นคำขวัญและคุ้นชินสำหรับบุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกริก ครั้งแรกที่เข้ามาในมหาวิทยาลัยเกริกสัมผัสได้ถึงความสง่างามของอนุสาวรีย์อาจารย์ ดร.เกริก ในเบื้องหน้า จนกระทั่งได้เข้ามาศึกษาที่นี่นับได้ว่าเป็นสถาบันที่ตอบโจทย์ในความมุ่งมั่นของตน เพราะได้รับองค์ความรู้มากมายพร้อมทั้งได้รับทราบถึงคุณความดีของท่านทำให้รู้สึกว่าควรก้าวตามรอยปณิธานของท่าน โดยนำทั้ง 2 สิ่งมาผนวกและนำมาปรับใช้ในแง่ของการทำงานและการใช้ชีวิตจนประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับได้ว่าความรู้ที่ได้จากการศึกษานั้นคุ้มค่ามากเปรียบได้กับคำที่ว่า "ปัญญาดุจดังอาวุธ" ที่สำคัญเมื่อเรามีความรู้และสำเร็จการศึกษาทำให้เราเกิดการพัฒนาและมีเครือข่ายมากมายในสังคมทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนในด้านต่างๆ แล้วตอนนี้รู้สึกว่า "ผมองอาจได้ด้วยความรู้ ซึ่งความรู้นั้นผมก็ได้มาจากมหาวิทยาลัยเกริกครับ"
ดร.ธนกร ตันติไพจิตร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่ง การมาร่วมพิธีรำลึก 47 ปี ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ พร้อมรับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นในครั้งนี้อบอุ่นเหมือนได้กลับมาบ้านเดิมอีกครั้ง ด้วยมหาวิทยาลัยเกริกนี้มีแหล่งประสาทวิชาและบ่มเพาะสร้างพื้นฐานที่ดีในการทำงานเพื่อประชาชนให้กับตนในฐานะนักการเมืองที่ต้องดูแลประชาชนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดีกับประชาชนในพื้นที่เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันและเกิดการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันสำเร็จตามเป้าหมาย เช่นการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้ใช้สื่อ animation ในการสื่อสารเพื่อให้เกิดการรับรู้ น่าสนใจและเข้าใจถึงนโยบายที่ต้องการจะสื่อสารได้ง่ายขึ้น ผนวกกับองค์ความรู้ต่างๆที่ได้ศึกษามาจนทำให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้
ดร.วิธาวีร์ ปทุมสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา ศิษย์เก่าดีเด่นสาขาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตการจัดการองค์กรยุคใหม่ มหาวิทยาลัยเกริก กล่าว่า รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมพิธีรำลึก 47 ปี ดร. เกริก มังคละพฤกษ์ และได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นในครั้งนี้ เพราะสามารถนำความรู้จากการศึกษามหาวิทยาลัยเกริกแห่งนี้ ไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติในฐานะสมาชิกวุฒิสภา โดยสิ่งต่างๆที่ได้เรียนรู้ศึกษามาไม่เพียงแต่วิชาความรู้ที่เราสามารถนำไปปรับใช้ในแง่ของการบริหารจัดการและการทำงานในบทบาทต่างๆเท่านั้น แต่ยังมีมิติอื่นๆอีกมากที่สามารถนำไปบูรณาการต่อยอดสร้างทฤษฎีใหม่ๆ และในแง่ของสัมพันธภาพที่ดีระหว่างศิษย์กับอาจารย์และกลุ่มเพื่อนๆที่ศึกษาด้วยกัน ที่สำคัญคือ ทำให้เรามีความมั่นใจมีความภาคภูมิใจในการที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ต่างๆด้วยความรู้ที่เรามีอย่างแท้จริง
รองอธิการบดีฝ่ายสื่อสารการตลาดประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวปิดท้ายว่า ปัจจุบันผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกริกจำนวนมากล้วนประสบความสำเร็จมีชื่อเสียง เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นจำนวนมาก นั่นยิ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงปณิธานของ ดร. เกริก มังคละพฤกษ์ ที่ว่า “ความรู้ทำให้คนองอาจ” อย่างแท้จริง
-------------------------
By: วัฒนรินทร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น