พช.เริ่มคัดกว่า 16,000 ผลิตภัณฑ์ทั่วประเทศ ติดระดับดาวสุดยอด OTOP

พช.เริ่มคัดกว่า 16,000 ผลิตภัณฑ์ทั่วประเทศ ติดระดับดาวสุดยอด OTOP 

     นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2567 ระดับประเทศ โดยมี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผู้แทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผู้แทนสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ตลอดจนคณะกรรมการคัดสรรฯ เข้าร่วม ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า การคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในส่วนผู้ผลิตผู้ประกอบการที่จะต้องพัฒนาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของตนเองให้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีความพร้อมสามารถจะออกสู่ตลาดแข่งขันได้ทั้งภายในและต่างประเทศ นอกจากนี้  ในส่วนของคณะกรรมการคัดสรรฯ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะเป็นผู้พิจารณาให้ค่าคะแนน ในส่วน ค. ด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการตรวจสอบ/วิเคราะห์คุณภาพ ตามประเภทผลิตภัณฑ์ และโอกาสทางการตลาดสู่สากล ดังนั้น ขอให้คณะกรรมการทุกท่านมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้เต็มที่ เพื่อประโยชน์ของทั้งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP รวมถึงผู้บริโภคที่เป็นผู้บริโภคสินค้า OTOP จะได้เกิดความเชื่อมั่น และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดความมั่นคงต่อไป



         ทั้งนี้  กรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินการคัดสรรสุดยอด หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย เฉลี่ยทุก 2 ปี ดำเนินการมาแล้ว 8 ครั้ง โดยจะเปิดโอกาสให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเข้าร่วมการคัดสรรมาก่อน และผลิตภัณฑ์เดิมที่เคยผ่านการคัดสรรมาแล้ว  แต่ต้องการปรับระดับสินค้า (Product Level) ให้ขึ้นถึง 5 ดาว เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างโอกาสให้แก่ผลิตภัณฑ์ สำหรับปี พ.ศ.2567 นี้  กำหนดให้ผู้ประกอบการ 1 ราย สามารถส่งผลิตภัณฑ์เข้าคัดสรรฯ ได้จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์ หรือ 3 ชุดผลิตภัณฑ์  ปรากฏว่ามีผู้ผลิตผู้ประกอบการส่งผลิตภัณฑ์สมัครเข้าร่วมระดับจังหวัด เข้าสู่กระบวนการคัดสรร ระดับประเทศ จำนวน 16,653 ผลิตภัณฑ์  แบ่งเป็น 1. ประเภทอาหาร จำนวน 4,394 ผลิตภัณฑ์  2. ประเภทเครื่องดื่ม จำนวน 767 ผลิตภัณฑ์  3. ประเภทผ้า และเครื่องแต่งกาย จำนวน 6,603 ผลิตภัณฑ์  4. ประเภทของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก จำนวน 3,816 ผลิตภัณฑ์  5. ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จำนวน 1,073 ผลิตภัณฑ์


         สำหรับเกณฑ์การคัดสรร ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1.ส่วน ก ด้านผลิตภัณฑ์และความเข้มแข็งของชุมชน 2.ส่วน ข ด้านการตลาดและความเป็นมาของผลิตภัณฑ์  และ 3. ส่วน ค ด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์  ซึ่งผลการจัดระดับผลิตภัณฑ์ จะแบ่งเป็น 5 ระดับ ตามคะแนน  สูงสุดคือ ระดับ 5 ดาว (ได้คะแนนตั้งแต่ 90-100) และต่ำสุดระดับ 1 ดาว (ได้คะแนนต่ำกว่า 50 คะแนน)  โดยหลังจากมีการประกาศผล เจ้าของผลิตภัณฑ์จะได้รู้จุดเด่นจุดด้อย นำความเห็นของกรรมการฯไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพมากขึ้นและมีโอกาสขยายตลาดได้มากขึ้น  ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างรายได้อย่างยั่งยืนสู่ชุมชนต่อไป


                               ----------------------------

By: วัฒนรินทร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

14 ปี กรมหม่อนไหม สืบสานภูมิปัญญา พัฒนาสู่ความยั่งยืน

สวก. เตรียมโชว์งานวิจัยเด่น 6 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก 20 - 21 พ.ย.นี้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ม.เกริกมอบโล่เกียรติคุณเชิดชูเกียรติ “นักการเมืองดีเด่นยอดเยี่ยม ประจำปี 2567”