มท.ร่วมหารือการบริหารจัดการน้ำ สั่งการผู้ว่าฯ ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมประสานความร่วมมือช่วยผู้ประสบภัย
มท.ร่วมหารือการบริหารจัดการน้ำ สั่งการผู้ว่าฯ ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมประสานความร่วมมือช่วยผู้ประสบภัย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังร่วมประชุมหารือการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารระดับกระทรวง ระดับกรม หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ชั้น 3 อาคาร 99 ปี อาคารหม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทาน (สามเสน) กรุงเทพมหานคร ว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย จ.แพร่ จ.พะเยา และ จ.น่าน ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ ทางรัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่จึงได้เรียกประชุมด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์ และร่วมบูรณาการความร่วมมือช่วยเหลือ รวมถึงเตรียมการสำหรับพื้นที่รองรับมวลน้ำตามภารกิจ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานนำเครื่องมือมาช่วยเร่งระบายน้ำ , กระทรวงคมนาคมจัดหาแนวทางให้น้ำไหลผ่าน , สนทช. สำรวจพื้นที่เสี่ยงภัย โดยการส่งรถเคลื่อนที่ไปในพื้นที่วิกฤติ พร้อมทั้งส่งโดรนสำรวจพื้นที่เพื่อหาแนวทางเตรียมรองรับน้ำ และการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน นอกจากนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลของอุปโภคบริโภคไม่ให้ขาดตลาดและควบคุมราคาสินค้าไม่ให้ขึ้นราคาเพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมประชาชน
"ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบอุทกภัยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ โดยประสานบูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่ ทั้งการช่วยเหลืออพยพนักเรียนที่ติดอยู่ในโรงเรียน รวมถึงการประสานกับกระทรวงศึกษาธิการให้สถานศึกษาในพื้นที่เสี่ยงหยุดเรียน เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เร่งนำเครื่องมือเครื่องจักรกลในการสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพื่อบรรเทาความรุนแรง และสำหรับพื้นที่ที่คาดการณ์ว่าจะมีเหตุอุทกภัย ให้ประกาศเป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติได้ทันที เพื่อใช้งบทดรองราชการให้การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในการประชุมวันนี้สิ่งที่เน้นย้ำ คือ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและการแก้ไขบรรเทาสถานการณ์ปัจจุบันให้กลับมาเป็นปกติเร็วที่สุด" นายอนุทิน กล่าว
กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเเล้ว รวมถึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉพาะ จ.สุโขทัยให้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำที่กำลังจะมาถึง โดยให้ระวังน้ำที่เอ่อล้นไปยังแม่น้ำสาขา หรือ แม่น้ำสายรอง พร้อมให้ประชาสัมพันธ์แจ้งพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับการปฏิบัติ หรือภัยต่างๆ ที่มากับน้ำท่วม เช่น สัตว์มีพิษ หรือ กระเเสไฟฟ้ารั่ว เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในส่วนของพื้นที่ประสบภัยทางภาคเหนือ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.แพร่ และ จ.พะเยา ประสานการปฏิบัติให้ดำเนินการตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และข้อสั่งการแล้ว พร้อมกำชับให้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องจักร และความมั่นคงเเข็งเเรงของเขื่อน คอสะพาน หรือ ถนนที่เป็นเส้นทางน้ำ หากมีความจำเป็นเพื่อการป้องกันก็ให้พิจารณาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน นอกจากนี้ การจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวแต่ละจังหวัดได้เตรียมอาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และได้มีการแจกถุงยังชีพในพื้นที่เพื่อบรรเทาภัยในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ในด้านงบประมาณทาง อปท. ได้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามระเบียบกฎหมายแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือแจ้งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือที่สายด่วนนิรภัย 1784 โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
-------------------------
By: วัฒนรินทร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น