กระทรวงดีอีเผยกลโกง “โจรออนไลน์” ป่วนลงทะเบียน “ดิจิทัลวอลเล็ต”

กระทรวงดีอีเผยกลโกง “โจรออนไลน์” ป่วนลงทะเบียน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ย้ำ ปชช. สอบถามข้อมูลผ่านสายด่วน Digital Wallet 1111

      นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” นั้น และจุดให้บริการ Walk-in ของหน่วยงานรัฐ 5,207 จุดทั่วประเทศ นั้น ล่าสุดจากการติดตามตรวจสอบสื่อสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลต่างๆ พบการกระทำต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมออนไลน์ อาทิ 

1.การจัดตั้งกลุ่ม หรือ แฟนเพจ Facebook แอบอ้างให้ความรู้ ข้อมูลเรื่องโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต โดยใช้บัญชีแอ็กเคานต์ที่ไม่เปิดเผยตัวตน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ  

2.การแชร์ และเผยแพร่ลิงก์ข่าวที่มีข้อมูลบิดเบือน ข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ  

3.การโพสต์ข้อความหลอกลวงให้ช่วยเหลือประชาชนในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ

            กระทรวงดีอีขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อรูปแบบการหลอกลวงต่างๆ ที่แอบอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ โดยขอย้ำว่า ประชาชนผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ต้องสมัครยืนยันตัวตน และลงทะเบียนด้วยตนเองในแอปฯ 'ทางรัฐ' เท่านั้น ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการของสมาร์ตโฟน ดังนี้

1.แอปพลิเคชัน “App Store” สำหรับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ดาวน์โหลดได้ที่ https://apps.apple.com/th/app/%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3-%E0%B8%90/id1514331336?l=th

2.แอปพลิเคชัน “Google Play” สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ดาวน์โหลดได้ที่

https://play.google.com/store/apps/details?id=th.or.dga.citizenportal

           ขณะที่ประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน รัฐบาลได้เปิดจุดให้บริการ (Walk – in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ดังนี้

1.ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ

2.ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)

3.ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ

4.ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ

รวมจำนวนจุดให้บริการทั้งหมด 5,207 แห่งทั่วประเทศ

           นอกจากนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นข้อมูลโดยตรงจากรัฐบาล ที่เชื่อถือได้ ในเว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านศูนย์บริการข้อมูลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 พร้อมให้บริการและคำแนะนำปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง  

     “กระทรวงดีอีตรวจพบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการก่ออาชญกรรมออนไลน์ การหลอกลวงในแพลตฟอร์มโซเชียล และสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งข่าวบิดเบือนข้อมูลของโครงการฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน และมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมผ่านช่องทางที่รัฐบาล กระทรวงดีอี และกระทรวงการคลัง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดไว้อย่างเป็นทางการ และแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เท่านั้น อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ หลอกลวงส่งลิงก์ หรือแพลตฟอร์มปลอมต่างๆ โดยอ้างว่าเป็นช่องทางการลงทะเบียน หรือข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ซึ่งอาจมีผลให้ข้อมูลส่วนบุคคลหลุดรอด หรือสูญเสียทรัพย์สินได้” นายประเสริฐ กล่าว  

          สอบถามข้อมูลข่าวสารโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 (24 ชม.)

                                ------------------------------------

By: วัฒนรินทร

#กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม #กระทรวงดีอี #ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม #DE #Digitalwallet #รมวประเสริฐ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

14 ปี กรมหม่อนไหม สืบสานภูมิปัญญา พัฒนาสู่ความยั่งยืน

สวก. เตรียมโชว์งานวิจัยเด่น 6 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก 20 - 21 พ.ย.นี้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ม.เกริกมอบโล่เกียรติคุณเชิดชูเกียรติ “นักการเมืองดีเด่นยอดเยี่ยม ประจำปี 2567”