กรมการข้าวเตรียมรับรองข้าว 10 สายพันธุ์ใหม่ ชูคุณภาพดี ตรงตามความต้องการของชาวนาและผู้บริโภค
กรมการข้าวเตรียมรับรองข้าว 10 สายพันธุ์ใหม่ ชูคุณภาพดี ตรงตามความต้องการของชาวนาและผู้บริโภค
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการแถลงประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สายพันธุ์ข้าวที่เตรียมรับรองพันธุ์ใหม่ของกรมการข้าว ปี 2567 โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว จึงได้มอบหมายให้กรมการข้าววิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวพันธุ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องชาวนาในทุกมิติ ซึ่งกรมการข้าวมีการวางแผนการรับรองพันธุ์ข้าวในทุกปี อย่างน้อยปีละ 4 – 5 พันธุ์ โดยพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ที่จะรับรองพันธุ์นั้นต้องเร่งรัดงานวิจัยพัฒนาให้สามารถทนแล้งและทนน้ำท่วมได้ในพันธุ์เดียวกัน อีกทั้งมีความเหมาะสมในการปลูกแต่ละพื้นที่ในประเทศไทย ตลอดจนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้มีโอกาสแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้
ด้าน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พี่น้องชาวนาจะได้รับผลผลิตเพิ่มขึ้นจากการใช้พันธุ์ข้าวพันธุ์ใหม่ ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง อีกทั้งยังลดความเสียหายจากการทำลายของโรค และแมลงศัตรูข้าว สามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวได้จากการลดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูข้าว สำหรับข้าวรับรองพันธุ์เดิมของกรมการข้าว ยังเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรได้เลือกปลูกตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และความต้องการของผู้บริโภค ส่วนข้าวพันธุ์ใหม่นั้นก็เป็นทางเลือกหนึ่งให้เกษตรกร ผู้บริโภคและผู้ประกอบการค้าข้าว ได้เลือกรับประทานข้าวที่มีความหลากหลาย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย
ขณะที่ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ได้กล่าวว่า ในปีนี้กรมการข้าวได้รับรองพันธุ์ข้าวที่มีความหลากหลายพันธุ์มากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลือกปลูกให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง และตามความสนใจของผู้บริโภค โดยข้าวที่จะรับรองพันธุ์ทั้ง 10 สายพันธุ์ มีความหลากหลายประเภท ทั้งข้าวขาวพื้นนุ่ม ขาวขาวพื้นแข็ง ข้าวหอมไทย ข้าวเหนียว ข้าวญี่ปุ่น ข้าวพื้นเมือง และข้าวสาลี ซึ่งข้าวแต่ละประเภทจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันตามการนำไปใช้ประโยชน์ อาทิ
- ข้าวขาวพื้นแข็ง อายุสั้น 90-100 วัน ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไป 10-15 % ศักยภาพการให้ผลผลิต 1,000-1,200 กิโลกรัมต่อไร่ ต้านทานต่อโรคขอบใบแห้ง และพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทานทานต่อสภาพน้ำท่วมฉับพลัน สภาพอากาศเย็น
- ข้าวเหนียว มีทั้งหมด 2 สายพันธุ์ ประกอบไปด้วย สายพันธุ์ RGDU10017-1-MAS-49-4-1-NKI-1-3-1-2 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข24 (สกลนคร 72) เป็นข้าวที่ไวต่อช่วงแสง ลำต้นเตี้ย ต้านทานการหักล้ม ทำให้ลดการสูญเสียผลผลิตระหว่างการเก็บเกี่ยว และสายพันธุ์ CRI13055-1-1-2-1 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข26 (เชียงราย 72) ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุสั้น ผลผลิตสูงกว่าข้าวเหนียวทั่วไปที่นิยมปลูก 13 – 15 % สามารถปลูกได้ปีละ 2 ครั้ง จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับให้เกษตรกรได้ใช้ปลูก เพื่อเพิ่มรายได้ให้มีมากขึ้น
- ข้าวขาวพื้นนุ่ม เกษตรกรสามารถเลือกใช้พันธุ์ข้าวเพื่อทดแทนการปลูกข้าวขาว พื้นนุ่ม ที่ไม่ไวต่อช่วงแสง เช่น พันธุ์ปทุมธานี 1 ที่ปัจจุบันประสบปัญหาหลายด้าน คุณภาพ การขัดสีลดลงอย่างมากทำให้การขายข้าวดังกล่าวในปัจจุบันได้ราคาลดลง อีกทั้งอายุการ เก็บเกี่ยว 120 วัน อาจยาวนานไปสำหรับเกษตรกร ที่ต้องการพันธุ์ข้าวที่มีอายุสั้นกว่า 120 วัน ซึ่งหากมีพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพหุงต้มใกล้เคียงกัน มีผลผลิตสูงกว่า และอายุสั้นกว่า เกษตรกรอาจมีทางเลือกในการเลือกปลูกข้าวขาวพื้นนุ่มได้ตลอดทั้งปี เพื่อยกระดับการแข่งขันในด้านการส่งออกของข้าวหอมพื้นนุ่มของประเทศไทยในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“นอกจากประเภทข้าวที่กล่าวมาแล้ว ยังมีข้าวประเภทอื่นๆ ที่ยังพัฒนาผลผลิตหรือคุณภาพมาทดแทนพันธุ์เดิมเพื่อใช้ประโยชน์ในการแปรรูป หรือใช้สำหรับบริโภคเฉพาะในแต่ละภูมิภาค เพื่อยกระดับการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถผลิตข้าวได้ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มของประเทศจากการส่งออกข้าวคุณภาพต่อไป” อธิบดีกรมการข้าว กล่าว
สำหรับสายพันธุ์ข้าวที่เตรียมยื่นขอรับรองพันธุ์ปี 2567 จำนวน 10 สายพันธุ์ ดังนี้
*ข้าวหอมไทย 2 สายพันธุ์
1.ข้าวสายพันธุ์ PSL97060-17-CNT-1-2-1 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข103 (หอมชัยนาท 72) เป็นข้าวเจ้าหอม ไวต่อช่วงแสง อายุเบา ออกดอกประมาณวันที่ 15 ตุลาคม ความสูง 139 เซนติเมตร ศักยภาพให้ผลผลิต 875 กิโลกรัมต่อไร่ อมิโลสต่ำ 17.4 % คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี เมื่อหุงสุกแล้วได้ข้าวสวยนุ่ม เหนียว และมีกลิ่นหอม (2AP = 0.98-1.25 ppm) เมล็ดเรียวยาว มากกว่าพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 คุณภาพการสีดีมากสามารถผลิตเป็นข้าวสาร 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 1 ได้
2.ข้าวเจ้าสายพันธุ์ CCS12009-KLG-18-1-1-3-1 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข109(หอมคลองหลวง 72) เป็นข้าวเจ้าหอมพื้นนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง ผลผลิตสูง อายุเก็บเกี่ยว 115 วัน ประมาณ 113 เซนติเมตร ศักยภาพการให้ผลผลิต 957 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวสุกมีกลิ่นหอม เนื้อสัมผัสค่อนข้างเหนียวและนุ่ม มีปริมาณอมิโลส 15.06 เปอร์เซ็นต์อายุเก็บเกี่ยวสั้นกว่าพันธุ์ปทุมธานี 1 คุณภาพการสีดีมาก สามารถผลิตเป็นข้าวสาร 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 1 ได้
*ข้าวขาวพื้นนุ่ม 1 สายพันธุ์
ข้าวเจ้าสายพันธุ์ PTL14006-11-1-2-2 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข111 (หอมพัทลุง 72) ข้าวเจ้าพื้นนุ่มมีกลิ่นหอม ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 102 วัน (หว่านน้ำตม) 112 วัน (ปักดำ) ความสูงประมาณ 113 เซนติเมตรศักยภาพการให้ผลผลิตสูง 1,086 กิโลกรัมต่อไร่ คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี เมื่อหุงสุกแล้วข้าวสวยนุ่มเหนียว มีปริมาณอมิโลส15.06 เปอร์เซ็นต์ และมีกลิ่นหอม คุณภาพการขัดสีดีมาก ได้ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าว 51.8 เปอร์เซ็นต์ และเป็นท้องไข่น้อย
*ข้าวขาวพื้นแข็ง 2 สายพันธุ์
1.ข้าวสายพันธุ์ CNT16022-57-1-2-4-2 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข 105 (เจ้าพระยา 72) ข้าวเจ้าพื้นแข็ง ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยว 100-110 วัน เมื่อปลูกโดย(หว่านน้ำตม) และ110-116 วัน (ปักดำ)
ต้นสูงประมาณ 112-122 เซนติเมตร ศักยภาพให้ผลผลิต 1,176 กิโลกรัมต่อไร่ ค่อนข้างต้านทานโรคขอบใบแห้งและเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีมาก สามารถผลิตเป็นข้าวสาร 100 % ชั้น 1 ได้
2.ข้าวสายพันธุ์ PSL16348-MAS-293-3-1-2-1 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข107 (พิษณุโลก 72) เป็นข้าวเจ้าพื้นแข็ง ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยวสั้นเฉลี่ย 107 วัน (ปักดำ)และ 89-94 วัน (หว่านน้ำตม) ศักยภาพให้ผลผลิต 1,070 กิโลกรัมต่อไร่ เป็นข้าวเจ้าพื้นแข็งหอม ให้สาร 2AP เท่ากับ 0.61 ppm คุณภาพเมล็ดทางกายภาพดี ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดี สามารถสีเป็นข้าวสาร 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 1 ได้ ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทนน้ำท่วมฉับพลันปานกลาง
*ข้าวเหนียว 2 สายพันธุ์
1.ข้าวสายพันธุ์ RGDU10017-1-MAS-49 4-1-NKI-1-3-1-2 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข24 (สกลนคร 72) เป็นข้าวเหนียว ไวต่อช่วงแสง เก็บเกี่ยวประมาณวันที่ 23 พฤศจิกายน ความสูงประมาณ 96 เซนติเมตร ลำ ลำต้นเตี้ย ต้านทานการหักล้ม ดีกว่าพันธุ์ กข6 และ กข18ศักยภาพการให้ผลผลิต 1,002 กิโลกรัมต่อไร่ ต้านทานต่อโรคไหม้ในระยะกล้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
2.ข้าวเหนียวสายพันธุ์ CRI13055-1-1-2-1 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข26 (เชียงราย 72) เป็นข้าวเหนียว ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 125 วัน ความสูงประมาณ 111 เซนติเมตร ศักยภาพการให้ผลผลิต 1,152กิโลกรัมต่อไร่สูงกว่าพันธุ์สันป่าตอง 1 อายุเก็บเกี่ยวสั้นกว่าพันธุ์สันป่าตอง 1 และกข14 ประมาณ 5-6 วัน ต้านทานต่อโรคไหม้ระยะกล้าในภาคเหนือตอนบน
*ข้าวไร่ 1 สายพันธุ์
ข้าวเจ้าสายพันธุ์ KBIC16003-35 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ หอมหัวบอน 35 (กระบี่ 72) เป็นข้าวไร่ ไวต่อช่วงแสง อายุวันออกดอก 50 เปอร์เซ็นต์ ระหว่าง 21 กันยายน-17 ตุลาคม ความสูงประมาณ 147 เซนติเมตร เป็นข้าวที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง ข้าวหุงสุกมีกลิ่นหอมเหมือนเผือก (2AP= 1.46 ppm) มีคุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือ Gamma Oryzanol และ Total antioxidant ค่อนข้างสูง ค่อนข้างต้านทานโรคไหม้ในระยะกล้า
*ข้าวญี่ปุ่น 1 สายพันธุ์
ข้าวสายพันธุ์ CRI12026-6-9-PSL-4-1-1-1 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กขจ1 เป็นข้าวเจ้าจาปอนิกา ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยว 98-113 วัน สูงประมาณ 93 เซนติเมตร ศักยภาพการให้ผลผลิต 953 กิโลกรัมต่อไร่ ท้องไข่น้อยกว่าพันธุ์ ก.วก.1 และ ก.วก.2 คุณภาพการสีดีมาก คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี เนื้อสัมผัสข้าวสุกนุ่ม ต้านทานต่อโรคไหม้ได้ดีกว่าพันธุ์ พันธุ์ ก.วก.1 และ ก.วก.2
*ข้าวสาลี 1 สายพันธุ์
ข้าวสายพันธุ์ SMGBWS88008 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กขส1(สะเมิง 72) ข้าวสาลี อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 89 วัน ต้นสูงประมาณ 90 เซนติเมตร ศักยภาพให้ผลผลิต 569 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ พันธุ์สะเมิง 2 และฝาง 60 คุณภาพของโปรตีนเหมาะสมสำหรับทำแป้งขนมปังโปรตีนสูง คุณภาพของแป้งเหมาะสมสำหรับทำขนมปัง
-----------------------------
By: วัฒนรินทร
#กรมการข้าว #สายพันธุ์ข้าว #ร้อยเอกธรรมนัส #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #ข้าวตรงความต้องการ #ชาวนา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น