กรมโยธาฯ ระดมความคิด แลกเปลี่ยนความรู้ น้อมนําศาสตร์พระราชา “ออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ (แก้มลิง) แบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ”
กรมโยธาฯ ระดมความคิด แลกเปลี่ยนความรู้ น้อมนําศาสตร์พระราชา “ออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ (แก้มลิง) แบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ”
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ (แก้มลิง) แบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ” ระหว่างวันที่ 5 – 8 มกราคม 2567 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก จังหวัดนครนายก เพื่อถ่ายทอดและพัฒนาองค์ความรู้ด้านการพัฒนาพื้นที่แบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ ให้แก่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เป้าหมาย 6 จังหวัด ได้แก่ ภาคตะวันตก – จังหวัดกาญจนบุรี , ภาคเหนือ – จังหวัดพะเยา , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – จังหวัดอุบลราชธานี , ภาคกลาง – จังหวัดนครนายก , ภาคตะวันออก – จังหวัดจันทบุรี และภาคใต้ – จังหวัดสตูล รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนัก/กองที่เกี่ยวข้องของกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้สามารถดำเนินการออกแบบแนวคิดการพัฒนาพื้นที่เป้าหมายได้ และเกิดการสร้างเครือข่าย ประสานงานแบบบูรณาการ การทำงานร่วมกันที่สอดคล้องกับแนวคิด วัตถุประสงค์ของโครงการ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดและประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนโครงการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 การประชุมและการฝึกปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน มีการการถ่ายทอดและพัฒนาองค์ความรู้ด้านการพัฒนาพื้นที่แบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ ให้แก่ผู้ร่วมประชุมฝึกปฏิบัติ จากวิทยากรผู้มีความสามารถหลายท่าน โดยในวันสุดท้ายของการประชุมฝึกปฏิบัติ หลังจากฝึกปฏิบัติร่วมกันมา 3 วัน ผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการสามารถนำเสนอผลงานออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ (แก้มลิง) แบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ โดยการน้อมนําศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ต่อผู้มีส่วนได้เสีย 6 พื้นที่ ดังนี้
- จังหวัดพะเยา ได้นำองค์ความรู้ด้านการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ “จากนภา ผ่านภูผา เลียบทุ่งนา สู่มหานที” มาออกแบบพื้นที่ แบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน พัฒนาแหล่งน้ำ สร้างฝายชะลอน้ำ ปลูกป่า นาขั้นบันได ผักสวนครัว พัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ควายไทยควบคู่กับการฟื้นฟูดิน พัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ถ่ายทอดภูมิปัญญาและนวัตกรรม
- จังหวัดอุบลราชธานี ได้นำหลัก บวร มาออกแบบพื้นที่ นำทฤษฎีใหม่มาพัฒนาบริหารจัดการ ดิน น้ำ ป่า คน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการใช้อารยธรรมที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่น ร่วมกับการประยุกต์ใช้ทฤษฎีศาสตร์พระราชา ในการ สืบสาน รักษา ต่อยอด ทำให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ภายในชุมชน มีการบูรณาการงานวิชาการ งานวิชาชีพ สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาพื้นที่เป็นวิชชาลัยอารยเกษตรบ้านวังอ้อ
- จังหวัดสตูล แนวคิดในการออกแบบ คือการนำทฤษฎีใหม่ประยุกต์ สู่การท่องเที่ยวจังหวัดสตูล พื้นที่ต้องพึ่งพาตนเองได้ มีกิน มีใช้ มีรายได้ โดยการรักษาของเดิม เพิ่มเติมของใหม่ ปรับปรุงสภาพดิน พัฒนาแหล่งน้ำ ชุมชน สร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว
- จังหวัดนครนายก แนวคิดในการออกแบบพื้นที่ คือ ลานธรรมกลางใจป่า ปลูกป่ากลางใจคน พุทธอารยเกษตร แบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดิน 10 ส่วน 1. สำนักงานประชาสัมพันธ์โครงการพุทธอารยเกษตร 2. ลาน Plaza 3. จุดเชื่อมโยงสายตานำพาไปสู่เป้าหมาย 4. สวนดอกไม้ 5. สวน 6 ดาวเด่น 6. Shop-Spa-Thai Massage 7. ลานสักธรรม 8. ส่วนเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ประยุกต์ 9. พื้นที่กักเก็บน้ำ แปลงนาทดลอง และคันนาทองคำ 10. พื้นที่ผลิตสินค้าและบรรจุภัณฑ์
- จังหวัดจันทบุรี แนวคิดในการออกแบบคือ “น้ำ เกษตรประณีต ทฤษฎีในหลวง” แบ่งพื้นที่ 4 ส่วน คือ 1. ส่วนบริการ 2. พื้นที่เก็บน้ำ (แก้มลิง) โดยจะมีการปลูกต้นรวงทองเป็นจุดLandmark ตรงกลางพื้นที่ 3. พื้นที่ป่าไม้ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง 4. พื้นที่อนุรักษ์พันธุกรรมพืช/สัตว์ มีโรงเลี้ยงสัตว์ปีก เลี้ยงปลา แปลงเกษตรตัวอย่าง โดยระหว่างดำเนินโครงการจะมีการประสานงานบูรณาการขอแหล่งน้ำสำรอง เพื่อใช้ในพื้นที่จังหวัด
- กาญจนบุรี พัฒนาพื้นที่เพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน น้ำ ป่า ด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชา สร้างแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร พื้นที่สาธารณะ และศูนย์การเรียนรู้สู่การพึ่งพาตนเองได้ ขยายผลให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้การน้อมนำแนวพระราชดำริอารยเกษตรสู่ประชาชน แบ่งพื้นที่ 6 ส่วน 1. พื้นที่แห่งการเรียนรู้ศึกษาและการต่อยอดอนุรักษ์ดิน น้ำ ป่า 2. พื้นที่ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง 3. โคก หนอง นา ตามแนวพระราชดำริ เกษตรทฤษฎีใหม่ 4. ลานวัฒนธรรมมีชีวิต 5. พื้นที่อาคารอำนวยการ ฝึกอบรม และฐานการเรียนรู้ 6. ส่วนบริการ
โดยผู้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการได้นำเสนอร่างการออกแบบพื้นที่โครงการ 6 พื้นที่ ต่อผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ อาทิ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด สำนักงานที่ดินจังหวัด เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อแสนแนะต่าง ๆ นำมาบูรณาการร่วมกันในพื้นที่ ขับเคลื่อนโครงการฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ หลังจากการประชุมเชิงปฏิบัติการเสร็จสิ้นแล้ว ทุกคนที่เข้าร่วมสามารถออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ (แก้มลิง) แบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริได้ และต่อยอดนำองค์ความรู้ไปพัฒนาใน 6 พื้นที่ เพื่อพัฒนาและบรรเทาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม – น้ำแล้ง และช่วยเก็บกักน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร ฟื้นฟูระบบนิเวศเพื่อเป็นแหล่งอาหารแก่ชุมชน พื้นที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการพัฒนาพื้นที่แบบอารยเกษตร ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดี Change for Good ในพื้นที่ทุกมิติ
----------------------------
By: วัฒนรินทร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น